ศูนย์โรคหัวใจ
The Cardiac Center
ให้บริการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือดแบบครบวงจร
เป็นศูนย์กลางการวิจัยและเป็นศูนย์กลางความรู้ เผยแพร่แก่ประชาชนและสังคม
เป็นศูนย์การแพทย์ตติยภูมิให้บริการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจและ หลอดเลือดแบบครบวงจร มีเทคโนโลยีและเครื่องมือการแพทย์ที่ทันสมัย ดูแลโดยทีมอาจารย์แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในแต่ละสาขา และ บุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์สูง นอกจากนี้ยังเป็นศูนย์กลางการวิจัยและเป็นศูนย์กลางความรู้เผยแพร่แก่ ประชาชนและสังคม
ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประกอบด้วย สาขาวิชาต่างๆที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สาขาวิชาอายุรศาสตร์หัวใจและหลอดเลือด สาขาวิชาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์หัวใจ และ สาขาวิชาวิสัญญีวิทยาหัวใจและทรวงอก ปัจจุบันได้ร่วมกับสาขาวิชาภาพถ่ายรังสีหัวใจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและ เอกซเรย์คอมพิวเตอร์จากภาควิชารังสีวิทยาและ คณาจารย์เวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจจากภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อให้การบริการผู้ป่วยสมบูรณ์และครบวงจรมากที่สุด
วิสัยทัศน์
เป็นสถาบันต้นแบบทางการแพทย์ที่มีคุณธรรม ด้วยคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ ที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่ความเป็นเลิศ ยกระดับความสามารถทางการแพทย์และการรักษา พยาบาลของประเทศให้มีประสิทธิภาพและยั่งยืน
พันธกิจ
ให้การศึกษา ผลิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางและบุคลากรทางการแพทย์ทุกระดับ ให้บริการรักษาพยาบาล ฟื้นฟูสมรรถภาพ ป้องกันโรค และสร้างเสริมสุขภาพที่เป็นเลิศ ด้วยการค้นคว้า วิจัย สร้างนวัตกรรมทางการแพทย์และการพยาบาลที่มีคุณภาพมาตรฐานระดับนานาชาติ พัฒนาคุณภาพ การบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของทุกคน
เกี่ยวกับศูนย์โรคหัวใจ
ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ขึ้นชื่อว่าเป็น “ศูนย์โรคหัวใจ มือวางอันดับต้น ๆ ของประเทศ” ที่พร้อมดูแลหัวใจคุณ มีบริการวินิจฉัยและดูแลรักษาผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีความซับซ้อนเป็นพิเศษ อาทิ
- การผ่าตัดหัวใจพิการแต่กำเนิด
- การผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจ
- การผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่
- การผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ
- การผ่าตัดต่อเส้นเลือดหัวใจหรือการผ่าตัดบายพาส
- การผ่าตัดซ่อมลิ้นหัวใจ
- การผ่าตัดเปลี่ยนจังหวะหัวใจ (หัวใจเต้นผิดจังหวะ)
ศ.นพ.วิชัย เบญจชลมาศ หัวหน้าศูนย์ โรคหัวใจ กล่าวว่า ศูนย์ฯ แห่งนี้ให้บริการการรักษาโดยบุคลากรทางการแพทย์สหสาขาที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เฉพาะทางสูง ได้แก่
- สาขาวิชาอายุรศาสตร์หัวใจและหลอดเลือด
- สาขาวิชาศัลยศาสตร์ทรวงอก
- สาขาวิชาโรคหัวใจเด็ก
- สาขาวิชาวิสัญญีวิทยาหัวใจและทรวงอก
- สาขารังสีวิทยาการตรวจภาพหัวใจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าและเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ และ
- สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟูหัวใจ
โดยรักษาควบคู่ไปกับการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ ซึ่งในการรักษาปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องพยุงหัวใจที่สามารถฝังไว้ในร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยสามารถนำกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ปัจจุบันมีเทคโนโลยีเครื่องพยุงหัวใจที่สามารถฝังไว้ในร่างกาย ทำให้ผู้ป่วยสามารถนำกลับบ้านได้โดยไม่ต้องพักฟื้นที่โรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ในอดีตศูนย์โรคหัวใจให้บริการเพียงแค่การวินิจฉัยโรคหัวใจในเด็ก แต่ปัจจุบันได้พัฒนาโดยมีการทำหัตถการมากขึ้น เพื่อลดการผ่าตัดใหญ่ ทำให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วและมีบาดแผลน้อย อีกทั้งสามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของหัวใจได้ตั้งแต่ในครรภ์ ทำให้ทีมแพทย์และผู้ปกครองเด็กสามารถเตรียมพร้อมเพื่อผ่าตัดหัวใจให้กับทารกหลังคลอดได้ในเวลาที่เหมาะสม
ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ที่เป็นโรคหัวใจก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นทุกปี และกลุ่มผู้ป่วยสูงวัยก็มีแนวโน้มเป็นผู้ป่วยที่มีอายุมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย แต่การผ่าตัดเพื่อทำการรักษาไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุ แต่ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคลว่ามีความพร้อมมากเพียงใด โดยศูนย์ โรคหัวใจแห่งนี้ การันตีด้วยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดหัวใจที่ดีอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ดังนั้นปัญหาโรคเกี่ยวกับหัวใจจึงอาจไม่ใช่ฝันร้ายสำหรับผู้ป่วยและญาติอีกต่อไป
ข้อมูลติดต่อ
ชื่อฝ่าย/ศูนย์
ศูนย์โรคหัวใจ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ ชั้น 4 โซน D
เบอร์โทรศัพท์หน่วยงาน
02-256-4000 (ต่อ 80442-80445)
เว็บไซต์หน่วยงาน
กลุ่มงานภาวะหัวใจล้มเหลว และอายุรศาสตร์ การปลูกถ่ายหัวใจ
(Heart Failure and Transplant Cardiology)
เกี่ยวกับ Heart Failure and Transplant Cardiology
- ดูแลผู้ป่วยแบบใด ?
- ผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจล้มเหลว (Heart failure) ซึ่งเกิดจากสภาวะ ที่กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรง และไม่สามารถสูบฉีด เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ตามปกติ ทำให้มีอาการ เหนื่อยง่าย หายใจลำบาก ไม่สามารถนอนราบได้ ขาบวม ท้องบวม และน้ำหนักตัวเพิ่มสูงผิดปกติ ภาวะหัวใจล้มเหลวนี้เป็นภาวะเรื้อรัง สามารถรักษาได้ แต่ไม่หายขาด จำเป็นต้องใช้ยาหลายชนิด เพื่อการดูแลผู้ป่วย ในผู้ป่วยที่มีอาการมากหรือรุนแรงอาจต้องใช้การรักษาสูงขึ้นกว่าการรักษาด้วยยา ได้แก่ การรักษาด้วยการฝังเครื่องประสานการทำงานของหัวใจ (Cardiac implantable electronic devices) หรือ การผ่าตัดใส่ เครื่องพยุงหัวใจ (mechanical circulatory support) หรือ การปลูกถ่ายหัวใจ (heart transplant) เป็นต้น
- ผู้ป่วยก่อนและหลังปลูกถ่ายหัวใจ เป็นการดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องจากภาวะหัวใจล้มเหลวครบวงจร
- ให้ความรู้ แก่บุคลากรทางการแพทย์ (นิสิตแพทย์ แพทย์ประจำบ้าน และ แพทย์ประจำบ้านต่อยอด) และประชาชน รวมถึง จัดการประชุมทางวิชาการแก่บุคลากรทางการแพทย์ เป็นประจำทุกปีในระดับชาติ และ นานาชาติ (heart failure preceptorship program)
- ผลิตงานวิจัย เกี่ยวกับ Heart failure และ transplant cardiology สำหรับสังคมไทยและระดับนานาชาติ
บุคลากร
- แพทย์เฉพาะทางอนุสาขา heart failure and transplant cardiology 4 ท่าน
- พยาบาลประจำ heart failure and transplant cardiology สังกัดศูนย์โรคหัวใจและฝ่ายการพยาบาล 3 ท่าน
- เภสัชกร 3 ท่าน สังกัดโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ 2 ท่าน สังกัด คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1 ท่าน
- เภสัชกร resident 3 ท่าน หมุนเวียน 1 ท่าน ปฏิบัติงานผู้ป่วยนอก และ 1 ท่านปฏิบัติงานผู้ป่วยใน
- นักกำหนดอาหาร (dietician) 1 ท่าน
- นักวิทยาศาสตร์ 1 ท่าน
- เจ้าหน้าที่บริหารงานทั่วไป 1 ท่าน
- และ หน่วยงานอื่นซึ่งประสานงาน ปรึกษาเพิ่มเติม ได้แก่ นักกายภาพ (Cardiac rehabilitation) in collaboration ศัลยศาสตร์ หัวใจและทรวงอก และ แต่ละอนุสาขาของอายุรศาสตร์หัวใจ และ แผนกอื่น ๆ
การเข้ารับบริการของผู้ป่วย
รับการปรึกษาและ ส่งต่อจากแพทย์ (อายุรแพทย์หัวใจ และหรือ ศัลยแพทย์หัวใจและทรวงอก) ภายในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์และ นอกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อีกต่อหนึ่ง ไม่รับผู้ป่วย walk in หรือ self – referral
ข้อมูลติดต่อ
เบอร์โทรศัพท์หน่วยงาน
02 -256 -5371 02 -256 -4000 ต่อ 81132 -3
เว็บไซต์หน่วยงาน
ขอบเขตการให้บริการ
ให้บริการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยทางระบบหัวใจและหลอดเลือดด้วยเครื่องมือที่ทันสมัยและส่งต่อผู้ป่วยไปยังช่องทางการรักษาที่ถูกต้องและทันเวลา
1) ให้บริการการตรวจวินิจฉัยทางโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนี้คือ
- การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจ (Echocardiography) โดยมี การตรวจตั้งแต่ขั้นพื้นฐานด้วยระบบภาพ 2 มิติ (2D) จนถึง การตรวจขั้นสูง (Advanced echocardiography) ได้แก่
- 2-dimenstional echocardiography เป็นการตรวจการทำงานของหัวใจขั้นพื้นฐานเพื่อดูความผิดปกติของการทำงานของหัวใจตลอดจนลิ้นหัวใจ และหากมีขึ้นบ่งชี้ในการดูผนังหัวใจรั่วสามารถที่จะฉีดน้ำเกลือ (agitated saline) ได้
- 3-dimensional echocardiography ซึ่งช่วยให้แพทย์ประเมินความผิดปกติได้ชัดเจนขึ้นได้ในแนวลึกแบบ 3 มิติ สามารถเห็นภาพในทำให้วางแผนการรักษาได้อย่างถูกต้อง
- การตรวจ speckle tracking ซึ่งบอกการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจได้ละเอียดและสามารถพยากรณ์โรคได้ดีขึ้น
- การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจผ่านหลอดอาหาร (Transesophageal Echocardiography-TEE) โดยมีการให้ conscious sedation ระหว่างทำหัตถการ ทำให้ผู้ป่วยไม่เจ็บปวดขณะทำการตรวจ รวมถึงการมีห้องพักพื้นที่มีการตรวจติดตามสัญญาณชีพของผู้ป่วยอย่างใกล้ชิดทำให้ผู้ป่วยปลอดภัยมากขึ้นภายหลังการทำหัตถการ
- การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจร่วมกับการกระตุ้นหัวใจ (Stress echocardiography) เพื่อตรวจสมรรถภาพของการทำงานของหัวใจในขณะออกกำลังกาย ทั้งเพื่อประเมินความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจรวมถึงลิ้นหัวใจร่วมด้วย
- Treadmill stress echocardiography
- Dobutamine – Atropine stress echocardiography
- Supine ergometry stress echocardiography
- การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการวิ่งสายพาน (Exercise stress test – EST) เพื่อประเมินสมรรถภาพร่างกายและความผิดปกติของหลอดเลือดหัวใจรวมถึงการเต้นของหัวใจ
- การตรวจสมรรถภาพหัวใจด้วยการใช้เวชศาสตร์นิวเคลียร์ (Myocardial perfusion – MIBI) ร่วมกับทางสาขาวิชาเวชศาสตร์นิวเคลียร์
- การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG)
- 12-lead ECG
- 16-lead ECG
- Flecainide and Ajmaline challenge test ในผู้ป่วยสงสัยโรคไหลตาย Brugada syndrome
- การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจติดตามตัว แบบ24 ชั่วโมงแบบ 48 ชั่วโมง แบบ 72 ชั่วโมง (Holter monitoring)
- การตรวจเตียงกระดกเพื่อวินิจฉัยการเป็นลมหมดสติ (Tilt table test – TTT)
- การบันทึกความดันโลหิตติดตามตัว 24 ชั่วโมง (Ambulatory blood pressure monitoring)
- การตรวจวัดการอุดตันและความแข็งตัวของหลอดเลือดแดงส่วนปลาย (Ankle brachial index – ABI and Cardo Ankle vascular index – CAVI)
- การตรวจประเมินสมรรถภาพโดยให้ผู้ป่วยเดินเร็วเป็นเวลา 6 นาที (Six-minute walk test – 6MWT)
2) การตรวจด้วยคลื่นสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้าหัวใจ (cardiac MRI) ซึ่งเป็นการตรวจหัวใจให้ระเอียดมากขึ้น รวมถึงการบอกโครงสร้างหัวใจและหลอดเลือดที่ผิดปกติของหัวใจได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้การให้บริการของห้องตรวจฯ มุ่งเน้น เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ป่วย แบบ one-stop service ภายใต้การดูแลโดยอาจารย์แพทย์เฉพาะทางและการดูแลอย่างใกล้ชิดจากทีมพยาบาลและเจ้าหน้าที่ ทีผ่านการฝึกอบรบมาเป็นอย่างดี รวมถึงอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ที่ทันสมัย มีความปลอดภัย
นอกจากนี้ห้องตรวจยังมีการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศทางการแพทย์ โดยมีการเชื่อมโยงกับระบบ Hospital information system (HIS) อย่างเป็นระบบและทำให้เกิดความถูกต้อง สะดวกในการทำงานและการให้บริการ รวมถึงการเรียนการสอน และงานวิจัย
ทั้งห้องตรวจ adult noninvasive cardiovascular laboratory ยังเน้นในส่วนของการเรียนการสอน โดยทางห้องตรวจได้เปิด ศูนย์การเรียนรู้และฝึกอบรมการตรวจคลื่นเสียงสะท้อนหัวใจขึ้นสูง เป็นแห่งแรกในประเทศไทย ทั้งนี้เพื่อเป็นต้นแบบและแหล่งศึกษาดูงานของบุคคลากรทั้งภายในและภายนอกประเทศอีกด้วย