ไข 5 ข้อข้องใจเกี่ยวกับการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมด้วยเครื่องแมมโมแกรม
คำถาม 1 ต้องมารับการตรวจเต้านมเมื่อไหร่
คำตอบ แบ่งเป็น 2 กรณี
1. พบอาการผิดปกติ เช่น คลำเจอก้อนที่เต้านมหรือบริเวณรักแร้ หรือมีน้ำไหลออกจากหัวนม ควรมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยทันที
2. ไม่มีอาการผิดปกติ แนะนำให้เริ่มตรวจแมมโมแกรมทุกปี ปีละ 1 ครั้ง เมื่ออายุครบ 40 ปีขึ้นไป
คำถาม 2 อายุน้อยกว่า 40 ปี ไม่มีอาการใด ๆ แต่มีความกังวล อยากตรวจแมมโมแกรม ทำได้หรือไม่
คำตอบ สามารถทำได้หากอยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูง เช่น มีประวัติญาติใกล้ชิดเป็นมะเร็งเต้านมตอนอายุน้อย หรือเคยได้รับการรักษาด้วยการฉายแสงที่ทรวงอก โดยแพทย์จะพิจารณาตามความเหมาะสม
คำถาม 3 ไม่กล้ามาตรวจ กลัวว่าจะยิ่งเป็นมะเร็งหรือทำให้มะเร็งกระจายได้ เพราะเคยได้ยินว่ามีรังสี
คำตอบ ความเชื่อนี้ไม่ถูกต้อง เนื่องจากรังสีในการตรวจแมมโมแกรมนั้นมีปริมาณเพียงเล็กน้อย ไม่มีผลทำให้เกิดมะเร็ง
หากตรวจพบมะเร็งตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ยิ่งเพิ่มโอกาสในการรักษาให้หายขาดได้มากขึ้น
คำถาม 4 การกดบีบเต้านมจากการตรวจแมมโมแกรม จะทำให้เป็นมะเร็งเต้านม
คำตอบ ไม่เป็นความจริง การกดเต้านมจะทำให้ความหนาของเต้านมลดลง เห็นเนื้อเยื่อของเต้านมชัดเจนขึ้น และลดปริมาณรังสีที่ผู้ตรวจจะได้รับ ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็งเต้านม
คำถาม 5 เคยผ่าตัดใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอก จะตรวจแมมโมแกรมได้หรือไม่
คำตอบ สามารถทำได้อย่างปลอดภัย และควรมาตรวจเป็นประจำ โดยในระหว่างการตรวจ จะมีการถ่ายภาพเพิ่มจากปกติข้างละ 2 ท่า เพื่อดูเนื้อเต้านมให้ชัดเจนขึ้น
การตรวจแมมโมแกรมไม่ได้ป้องกันการเป็นมะเร็งเต้านม แต่มีจุดประสงค์เพื่อตรวจหามะเร็งเต้านมระยะเริ่มต้น เมื่อตรวจพบไวจะยิ่งเพิ่มโอกาสรักษาให้หายขาดได้ และกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้น
ข้อมูลโดย : อ.พญ.ปาลิตา หรรษกุล
หน่วยวินิจฉัยโรคเต้านม ฝ่ายรังสีวิทยา
ข้อมูล ณ วันที่ : 9 ตุลาคม 2567