กินอย่างไรเมื่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

กินอย่างไรเมื่อเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่

เมื่อต้องเข้ารับการรักษา

  • เมื่อต้องผ่าตัด ฉายแสงหรือให้ยาเคมีบำบัด ผู้ป่วยมีความต้องการพลังงานที่เพียงพอ และโปรตีนที่สูงขึ้นเพื่อช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวจากการรักษา
  • เน้นบริโภคโปรตีนคุณภาพสูง ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อไก่ ไข่ ถั่วเหลือง หรือเสริมด้วยอาหารทางการแพทย์ ถ้าบริโภคจากอาหารปกติได้ไม่เพียงพอ

เมื่อลำไส้อุดตัน

  • ลำไส้อุดตันที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข กากอาหารอาจจะไปอุดตันทำให้มีอาการท้องอืด ปวดท้อง
  • ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีกากใย เช่น ผัก ผลไม้ ธัญพืชไม่ขัดสี เป็นต้น

เมื่อให้ยาเคมีบำบัด

  • ผู้ป่วยที่ได้รับยาเคมีบำบัด อาจจะมีภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ทำให้ติดเชืัอง่าย
  • ควรบริโภคอาหารปรุงสุกด้วยความร้อนใหม่ ๆ
  • หลีกเลี่ยงอาหารสดที่เสี่ยงการปนเปื้อนเชื้อโรค เช่น ผักสด ผลไม้เปลือกบาง ผลไม้ที่มีรอยช้ำ อาหารกึ่งสุกกึ่งดิบ รวมทั้งอาหารที่ตั้งทิ้งไว้หลังปรุงเสร็จแล้วเป็นเวลานาน
  • ไม่ควรรับประทานน้ำแข็งที่ไม่ทราบแหล่งผลิต

กินอย่างไรไม่ให้มะเร็งกลับมาเป็นซ้ำ

  • เมื่อหายจากมะเร็งลำไส้ใหญ่แล้ว ควรเน้นการบริโภคอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ผักผลไม้ต่าง ๆ 
  • ลดการบริโภคเนื้อแดง เช่น เนื้อหนู เนื้อวัว เนื้อแกะ ไม่เกิน 350 กรัมต่อสัปดาห์ (เทียบเท่าเนื้อสเต็กไม่เกิน 2 – 3 ชิ้น) ต่อสัปดาห์
  • เมื่อรับประทานเนื้อแปรรูปเพิ่มขึ้น 50 กรัม จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้นถึง 1.16 เท่า
  • เมื่อรับประทานเนื้อแดงเพิ่มขึ้น 100 กรัม จะมีความเสี่ยงเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่สูงขึ้นถึง 1.12 เท่า
  • หลีกเลี่ยงอาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก แฮม เบคอน
  • หลังจากรักษาหายแล้ว ผู้ป่วยควรลดน้ำหนักถ้าน้ำหนักเกิน

เรื่องโดย : อ. นพ.ธนน คงเจริญสมบัติ
ฝ่ายอายุรศาสตร์ 
ข้อมูล ณ วันที่ 8 มีนาคม 2566