แสงสีฟ้าจากหน้าจอ ส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างไรบ้าง

แสงสีฟ้าจากหน้าจอ ส่งผลร้ายต่อดวงตาอย่างไรบ้าง

แสงสีฟ้าเป็นแสงที่พบได้ทั้งในธรรมชาติจากแสงอาทิตย์ และจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มี LED เป็นแหล่งกำเนิดแสง เช่น หลอดไฟ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ แท็บเลต หรือคอมพิวเตอร์

อันตรายจากแสงสีฟ้าต่อดวงตา

การได้รับแสงสีฟ้าหรือใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ติดต่อและสะสมกันเป็นเวลานาน อาจก่อให้เกิดอาการดังนี้

  • ภาวะตาล้า (Digital eye strain) ซึ่งทำให้เกิดอาการตามัว ปวดศีรษะ ปวดตา ตาแห้ง แสบตา น้ำตาไหล
  • เกิดปัญหาด้านการนอนหลับ เนื่องจากแสงสีฟ้าจะยับยั้งการหลั่งของสารเมลาโทนินที่ควบคุมวงจรการหลับและตื่น ส่งผลให้นอนหลับยากหรือรู้สึกหลับไม่สนิท 

ภาวะตาล้าจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หลีกเลี่ยงได้อย่างไร

  • หยุดใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์  2 – 3 ชั่วโมงก่อนเข้านอน 
  • ตั้งอุปกรณ์เป็นโหมดกลางคืน (night or dark mode) ในช่วงหัวค่ำ เพื่อช่วยลดความสว่างของหน้าจอและลดอุณหภูมิสีจอ  
  • ใช้หลัก 20 – 20 – 20 โดยละสายตาออกจากการใช้หน้าจอ ทุก ๆ 20 นาที ไปมองวัตถุที่อยู่ไกลออกไปอย่างน้อย 20 ฟุต เป็นเวลาอย่างน้อย 20 วินาที 
  • ปรับระดับความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม
  • ปรับระดับของหน้าจอให้ต่ำลงกว่าระดับสายตา ประมาณ 10-15 องศา และนั่งห่างจากจอคอมพิวเตอร์ประมาณหนึ่งช่วงแขน หรือประมาณ 25 นิ้ว
  • ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์สนับสนุนการใช้แว่นเพื่อกรองแสงฟ้าขณะใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ว่ามีความจำเป็นอย่างชัดเจน เนื่องจากการได้รับแสงฟ้าจากการใช้หน้าจอมีปริมาณน้อยกว่าที่ได้รับจากแสงอาทิตย์ที่มีอยู่ในธรรมชาติมาก และยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการที่ชัดเจนถึงการก่อให้เกิดความผิดปกติของจอตาในมนุษย์จากแสงฟ้า 

ข้อมูลโดย : รศ.พญ.สุภรัตน์ จริยโกศล 
ฝ่ายจักษุวิทยา
ข้อมูล ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2566