การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่เพื่อยับยั้งโรคโควิด-19
จากการศึกษาการเปลี่ยนแปลงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั้ง 3 ระลอกในประเทศไทย พบว่า
การแพร่ระบาดระลอกที่ 1
สายพันธุ์ที่แพร่ระบาดเริ่มต้นจากประเทศจีน ตรวจพบปริมาณ
ไวรัสในผู้ป่วยไม่มากเท่าในปัจจุบัน และมีมาตรการเต็มที่จนสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้
การแพร่ระบาดระลอกที่ 2
เริ่มต้นกลางเดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 สายพันธุ์ของเชื้อไวรัสที่พบเป็นสายพันธุ์ GH แพร่ระบาดมาจากแรงงานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตรวจพบปริมาณไวรัสในผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นแต่ยังสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้
การแพร่ระบาดระลอกที่ 3
เริ่มในช่วงปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 เป็นการระบาดของ
เชื้อไวรัสสายพันธุ์อังกฤษ ตรวจพบปริมาณไวรัสในลำคอผู้ป่วยสูงทำให้เกิดการแพร่กระจายได้ง่ายและรวดเร็วกว่า 2 ระลอกก่อนหน้าโดยเฉพาะการระบาดในกลุ่มผู้ที่อาศัยอยู่ร่วมกัน เช่น ในครอบครัวในสถานที่แออัด และในโรงงาน จึงควบคุมการระบาดได้ยากยิ่งขึ้น
จากการแพร่ระบาดทั้ง 3 ระลอก แสดงถึงวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่ปรับตัวเพื่อความอยู่รอด และสามารถแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น เพื่อต่อสู้กับมาตรการต่าง ๆ ของมนุษย์ที่พยายามป้องกันและสกัดการแพร่ระบาด ดังนั้น การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่จากการฉีดวัคซีนป้องกันโร่คโควิด-19 ให้คนหมู่มากจึงสามารถลดความรุนแรงและลดอัตราการเสียชีวิต รวมถึงยุติการระบาดของโรคโควิด-19 ลงได้
ข้อมูล ณ วันที่ 6 มิถุนายน 2564
ที่มา : ศ. นพ.ยง ภู่วรวรรณ