บทเรียนจากประเทศที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เกินร้อยละ 50 ของประชากร

บทเรียนจากประเทศที่มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เกินร้อยละ 50 ของประชากร

วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มีความสำคัญอย่างมากในการป้องกันการติดเชื้อ ลดอาการป่วยรุนแรง และลดอัตราการเสียชีวิต ปัจจุบันพบว่ามีผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนทั่วโลกมากกว่า 2,260 ล้านโดส (ข้อมูล ณ วันที่ 1 1 มิถุนายน พ.ศ. 2564) โดยประเทศที่มีประชากรฉีดวัคซีนมากกว่าร้อยละ 50 แล้วมีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลงอย่างชัดเจน ได้แก่ ประเทศอิสราเอล ประเทศอังกฤษ และประเทศสหรัฐอเมริกา

ตัวอย่างประเทศที่ประสบความสำเร็จในการฉีดวัคซีนโควิด-19

ประเทศอิสราเอล เริ่มมีมาตรการล็อคดาวน์อย่างจริงจังต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม พ.ศ. 2563 จนประชาชนได้รับวัคซีนเกินร้อยละ 50 ควบคู่ไปกับการสวมหน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่าง และเริ่มผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมา

ตัวอย่างประเทศที่ยังมีปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ประเทศมัลดีฟส์ เป็นประเทศที่มีการฉีดวัคซีนให้ประชาชนมากกว่าร้อยละ 60 แต่จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงสูงขึ้น

สาเหตุเกิดจากมาตรการป้องกันภายในประเทศที่ไม่เคร่งครัด เช่น การรณรงค์ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศโดยไม่มีระบบจัดการที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ประเทศไทยจะปลอดภัยเมื่อประชาชนส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 มากกว่าร้อยละ 70 ของประชากร โดยควรเร่งเข้ารับวัคซีนให้เร็วที่สุดภายในสิ้นปี พ.ศ. 2564

ข้อมูล ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2564
ที่มา : ศ. นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม