เมื่อมีผู้ป่วยวัณโรค

เมื่อมีผู้ป่วยวัณโรค

อยู่ในบ้านควรทำอย่างไร
เชื้อวัณโรค จัดเป็นกลุ่มเชื้อแบคทีเรียที่มีการเจริญเติบโตช้ อาการจึงอาจมาได้ช้กว่าปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียชนิดอื่น สามารถติดต่อผ่านทางเดินหายใจเข้าไปภายในปอดและต่อมน้ำเหลืองที่ขั้วปอด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่ออวัยวะอื่น ๆ ทั่วร่างกาย เช่น ต่อมน้ำเหลืองที่คอ ตับ ม้าม กระดูก หรือเยื่อหุ้มสมอง
อาการที่พบบ่อย
1. ไอเรื้อรังนานกว่า 2 สัปดาห์ ไอมีเสมหะ ไอแห้ง หรือไอเป็นเลือด
2. มีอาการเบื่ออาหาร น้ำหนักลด
3. มีไข้นานกว่า 2 สัปดาห
4. เหงื่อออกมากตอนกลางคืน
การปฏิบัติตนเมื่อมีผู้ป่วยวัณโรคอยู่ในบ้าน
1. ควรให้ผู้ป่วยแยกห้องกับคนในครอบครัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 สัปดาห์แรก ไม่ควรเปิดเครื่องปรับอากาศ ควรเป็นห้องที่เปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
2. สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 2 สัปดาห์แรก
3. ควรบ้วนเสมหะลงในภาชนะหรือกระป้องที่มีฝาปิดมิดชิด และนำทิ้งโดยผูกปากถุงให้สนิท
เมื่อไหร่ผู้ป่วยวัณโรคปอดจะหยุดการแพร่กระจายเชื้อ
โดยปกติวัณโรคปอดที่ไม่ดื้อยาจะหยุดแพร่เชื้อได้ควรจะต้องมี 3 ข้อ ดังต่อไปนี้
1. ผู้ป่วยรับประทานยาต้านวัณโรคต่อเนื่องอย่างน้อย 2 สัปดาห์แล้ว
2. ผู้ป่วยที่มีผลเสมหะยอมสีทนกรดให้ผลเป็นบวก จะต้องมีผลเสมหะย้อมสีทนกรดเป็นลบอย่างน้อย 3 ครั้ง
3. ผู้ป่วยหลังรับประทานยาต้านวัณโรคแล้วมีอาการไข้และไอที่ลดลง

วัณโรคสามารถรักษาหายขาดได้ แต่ก็สามารถเป็นซ้ำได้ หากรับประทานยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง เนื่องจากมีเชื้อบางส่วนที่อาจจะหลบซ่อนอยู่ในเซลล์ ซึ่งต้องใช้ยารักษาร่วมกันหลายขนานในช่วง 2-3 เดือนแรก และต้องรักษานานอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อลด์โอกาสดื้อยาและกลับเป็นซ้ำ

ข้อมูล ณ วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564
ที่มา : รศ.(พิศษ) นพ.กำพล สุวรรณพิมลกุล