กรณีใดบ้างที่จะยกเลิกการอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์

ถาม หากแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์แล้ว ต่อมาถึงแก่กรรม แล้ว ทายาทเปลี่ยนใจ ไม่มอบร่างผู้แสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ให้กับโรงพยาบาลฯเช่นนี้ ทายาทมีสิทธิ์หรือไม่ และมีความผิดทางกฎหมายหรือไม่? ตอบ เมื่อผู้แสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ถึงแก่กรรม ทายาท มีสิทธิ์ที่จะไม่มอบร่างผู้อุทิศร่างกายให้กับโรงพยาบาลฯ ได้ โดยไม่มีความผิดทางกฎหมาย ถาม ถ้าหากได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้พร้อมกับแสดงความจำนงอุทิศร่างกายฯ เมื่อถึงแก่กรรมแพทย์ได้นาอวัยวะไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่น แล้วยังสามารถ นาร่างไปเก็บรักษาเป็นอาจารย์ใหญ่ ให้นิสิตแพทย์ใช้ศึกษาได้หรือไม่? ตอบ ในกรณีแสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้ด้วย เมื่อท่านถึงแก่กรรมซึ่งอยู่ในสภาพสมองตาย และแพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถนำอวัยวะของท่านไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นได้ จึงจะยกเลิกการอุทิศร่างกายด้านการแพทย์ แต่หากแพทย์ไม่สามารถนำอวัยวะไปใช้ปลูกถ่ายกับผู้ป่วยอื่นได้ จึงจะนำร่าง ของท่านมาใช้เพื่อการศึกษาต่อไป ในกรณีที่ท่านแสดงความจำนงที่จะบริจาคดวงตาไว้แล้ว ท่านก็ ยังสามารถอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ได้ ถาม โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สามารถนาร่างของผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ มา ใช้ได้ทุกท่านหรือไม่? มีกฎเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไร? ตอบ โรงพยาบาลฯ ไม่สามารถรับร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ มาใช้เพื่อการศึกษาได้ ในกรณีต่อไปนี้ 1. เมื่อผู้แสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาฯ ถึงแก่กรรมแล้ว ทายาทไม่ ยินยอมมอบร่างผู้แสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ให้ 2. ผู้อุทิศร่างกายที่ได้รับการฉายรังสีสาหรับการรักษาโรคต่างๆ มาไม่เกิน อ่านต่อ..

การอุทิศร่างกายเพื่อ การศึกษาด้านการแพทย์ การบริจาคอวัยวะ และการบริจาค ดวงตา แตกต่างกันอย่างไร?

ถาม การบริจาคอวัยวะแตกต่างกับการอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาอย่างไร? ตอบ การบริจาคอวัยวะคือบริจาคคอวัยวะของท่านเพื่อนาไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นๆ ในกรณีท่านถึงแก่กรรมซึ่งอยู่ในสภาพสมองตาย และ แพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถนาอวัยวะของท่านไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นได้ ให้สามารถดารงชีวิตต่อไปอย่างมีความสุขได้โดยท่านสามารถติดต่อขอบริจาคอวัยวะได้ที่ ศูนย์อวัยวะ สภากาชาดไทย ถนนพระราม 4 เขตปทุมวัน กทม. 10330 หรือท่านสามารถติดต่อทาง โทรศัพท์ที่ หมายเลข 02-2564045 ในวัน เวลา ราชการส่วนการอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ คือการนาร่างผู้อุทิศร่างกายมาเก็บรักษาเป็น “อาจารย์ใหญ่” ไว้ให้นิสิตแพทย์ แพทย์ และนักศึกษาทางสารีณสุข สาขาอื่นๆได้ศึกษา ถาม ถ้าหากได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะหรือดวงตาแล้ว สามารถแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ได้หรือไม่? ตอบ แม้ว่าท่านได้แสดงความจำนงบริจาคอวัยวะไว้แล้ว แต่ท่านยังสามารถแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ (เป็นอาจารย์ใหญ่)ได้ ยกเว้นกรณีท่านถึงแก่กรรมซึ่งอยู่ในสภาพสมองตาย และ แพทย์พิจารณาแล้วเห็นว่า สามารถนำอวัยวะของท่านไปปลูกถ่ายให้ผู้ป่วยรายอื่นได้ จึงจะยกเลิกการอุทิศร่างกายด้านการแพทย์ แต่หากแพทย์ไม่สามารถนาอวัยวะไปใช้ปลูกถ่ายกับผู้ป่วยอื่นได้ จึงจะนาร่างของท่านมาใช้เพื่อการศึกษาต่อไป ในกรณีที่ท่านแสดงความจานงที่จะบริจาคดวงตาไว้แล้ว ท่านก็ยังสามารถอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ได้ ถาม การแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ถือว่าเป็นการบริจาคดวงตาด้วยหรือไม่? ตอบ ไม่ถือว่าเป็นการบริจาคดวงตาด้วย เนื่องจากเป็นการบริจาคเพื่อใช้ประโยชน์คนละวัตถุประสงค์หน่วยงานที่ดูแลด้านการบริจาคดวงตา ต้องเป็นเจ้าหน้าที่ ที่มีความชานาญพิเศษจากศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย อ่านต่อ..

กรณีแสดงความจำนงไว้นานแล้ว หรือบัตรประจำตัวหาย

ถาม หากได้เคยแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ไว้ให้กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เป็นเวลานานแล้ว ต้องมายื่นแสดงความจำนงอุทิศร่างกาย เพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ซา้ อีกหรือไม่? ตอบ หากท่านเคยแสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ไว้แล้วท่านไม่ต้องมาแสดงความจานงอุทิศร่างกายฯอีก หากมีข้อสงสัย ท่านอาจสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 02-2564628 ต่อ 0, 4 หรือ 7 ถาม ถ้าบัตรประจาตัวผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์หรือเอกสารการอุทิศร่างกาย เพื่อการศึกษาด้านการแพทย์หาย ต้องทาอย่างไร? ตอบ ท่านควรติดต่อเจ้าหน้าที่ ที่ศาลาทินทัต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ หรือ ภาควิชากายวิภาคศาสตร์ เพื่อขอให้ออกบัตรประจาตัวให้ใหม่ เพื่อเป็นหลักฐานแสดงให้ทราบว่าท่านอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ไว้ให้กับ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์

ใครควรรู้ว่าท่านแสดงความจำนงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาทางการแพทย์

ถาม เมื่อแสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์ ควรแจ้งให้ผู้ใดทราบ? ตอบ เมื่อท่านได้แสดงความจานงอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษาด้านการแพทย์แล้ว ท่านควรแจ้งให้ สามี ภรรยา ทายาท ญาติ ผู้ใกล้ชิด ให้ทราบไว้ เพื่อที่จะสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเมื่อท่านถึงแก่กรรม